การอ่านพื้นดวงชะตา ขั้นที่ ๓.๑      เรียบเรียงโดย   ปราณเวท

      เรายังคงใช้ดวงชะตา ดวงเก่าที่ได้ลงไว้ในบทความ  “การอ่านพื้นดวงชะตา ขั้นที่ ๓ “ที่ผ่านมานะครับ

เจ้าชะตาเป็นผู้ชาย เกิดวันอาทิตย์ บอกได้เพียงเท่านี้ครับ                                                                    
เจ้าชะตามีสภาพชีวิต ค่อนข้างลำบาก การศึกษาน้อย เรียนไม่จบชั้น ม.ต้น เป็นคนติดเพื่อน ชอบมีเหตุทะเลาะวิวาทก็เพราะเพื่อน ชีวิตวุ่นวายอยู่กับเรื่องคดีความ ยาเสพติด ติดคุกมาแล้ว 3 ครั้ง ยังไม่มีครอบครัว ไมมีลูก

     อย่างที่บอกไว้ในบทความที่แล้ว คือ คราวนี้เราจะวิจารณ์ดวงนี้ ในระดับที่สูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง  นั่นคือ การวิจารณ์ โดยใช้ความหมายดาว มาผสม จะเห็นได้ว่าบทความที่แล้วไม่ค่อยได้นำความหมายดาวมาใช้เท่าใดนัก จะเน้นที่ภพผสมภพ มากกว่าอย่างอื่น ส่วนท่านใดที่คาดหวังว่าครั้งนี้จะเป็นการวิจารณ์โดย ใช้ระบบ ตรียางค์ นวางศ์ ฤกษ์ อาจผิดหวังซักหน่อยนะครับ เพราะงานนี้อีแปะล้วนๆ ไม่ได้ใช้องศาดาวเข้ามาข่วยเลย ก็อย่างที่ว่านั่นแหละครับ วันเดือนปีเกิด เป็นข้อมูลส่วนตัวของเจ้าชะตา แต่ก็ไม่เป็นไรน่า เราใช้วิธีการพยากรณ์ตามที่ผมได้เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ก็สามารถพยากรณ์ได้เช่นกัน

     ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันนิดนึงนะครับว่า เรากำลังวิจารณ์ดวงชะตานี้อยู่ เพราะฉะนั้นคำวิจารณ์ดวงชะตา ก็จะเลือกความหมาย และแนวทางการวิจารณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริงของเจ้าชะตา ไม่ได้หมายความว่า คนที่มีลัคนา อยู่ราศีพฤษภทุกคน ต้องมีลักษณะอย่างนี้นะครับ ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องนำมาพิจารณาประกอบด้วยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นตนุลัคน์ ไปอยู่ราศีใด ภพใด และดาวที่มาทำมุมสัมพันธ์ถึง ลัคนาและตนุลัคน์  ซึ่งสำหรับผู้ที่เกิดราศีพฤษภ ส่วนใหญ่ที่ผมพบเจอ คือ มักจะทำงานที่เกี่ยวกับด้านการเงิน ธนาคาร เศรษฐกิจ (เศรษฐศาสตร์) บริหารจัดการด้านการเงินได้ดี มีฐานะการเงินดี มีหลักฐานมั่นคงดี เป็นคนมีเสน่ห์ ครับ (ขอออกตัวไว้หน่อยครับ ไม่เช่นนั้น เดี๋ยวชาวราศีพฤษภ จะมารุมตำหนิผมได้) เอาล่ะ เรามาว่ากันต่อเลยครับ

     ลัคนา อยู่ราศีพฤษภ ธาตุดิน สถิรราศี สัญลักษณ์คือ วัว เป็นภพกดุมพะ ของโลก  เรือนดาว ๖ มีดาว ๑ ธาตุไฟ เจ้าเรือนพันธุ ได้ตำแหน่งอุจจาภิมุข กับ ดาว ๔ ธาตุน้ำ เจ้าเรือนกดุมพะ-ปุตตะ กุมลัคนาและมี ๘ ธาตุลม เจ้าเรือนกัมมะ ได้ตำแหน่งราชาโขค กับ ดาว ๐ อากาศธาตุ ร่วมเรือนลัคนา ในเรือนอริ   

ทำให้ลัคนามีความสัมพันธ์ในขั้นแน่นแฟ้น กับดาว ๑ ๔ ๘ ๐ (ขออนุญาตไม่กล่าวถึงมุมโยค มุมเบียนนะครับ)
การพิจารณาก็จะพิจารณาเป็นคู่ๆ ไปเราจะไม่ใช้วิธีนำความหมายทั้งหมดมารวมกันแล้วออกคำพยากรณ์ เว้นเสียแต่ว่าจะเป็นการพิจารณา ดาวผสมดาว เพื่อหาความหมายที่เป็นผลรวมเท่านั้น (เรื่องนี้ถ้าสงสัยก็ถามมาในกระทู้ละกันครับ)
                                                                                                                                                                                                                               
เราจึงต้องพิจารณาแยกออกเป็นส่วนๆ โดยเริ่มที่ลัคนาก่อนดังนี้

ลัคนาอยู่ ราศีพฤษภ ธาตุดิน สัญลักษณ์ราศีคือ วัว-  เจ้าชะตาเป็นคนที่เก็บความรู้สึกได้ดี มีความเชื่อมั่นในตัวเอง  ดื้อดึง เปลี่ยนแปลงยาก ลองได้ตกลงใจทำอะไรแล้ว ถึงแม้จะผิดก็จะไม่ยอมถอยหลัง
ลัคนาอยู่ราศีพฤษภ ภพกดุมพะของภพโลก  –  มุ่งแต่จะหาผลประโยชน์เงินทองให้กับตัว
ลัคนาอยู่สถิรราศี  –  ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง
ลัคนาอยู่ เรือนดาว ๖  -  อยากได้ใคร่มี ทั้งเรื่องทรัพย์สินเงินทอง และความรัก เป็นพวกสุขนิยม ลัคนาอยู่ในเรือน ดาว ๖ ซึ่งเป็นดาว ราคะจริต ดาวกิเลส และตนุลัคน์ ดาว ๖ ไปอยู่วินาศ เป็นประ จึงมักยอมทำตัวเสื่อมเสีย ทำเรื่องไม่ดี อย่างลับๆ
ลัคนากุมดาว ๑ ธาตุไฟ  -  ทะเยอทะยาน มีทิฐิมานะมาก ใจร้อนวู่วาม
ลัคนากุมดาว ๔ ธาตุน้ำ  -  ช่างพูด พูดจาสนุกสนานเฮฮา ปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ดี ใจโลเล
ลัคนา ร่วมเรือน ๘ ธาตุลม เจ้าเรือนกัมมะ เป็นราชาโชค –  ราหู เป็นโมหะจริต ความลุ่มหลง มัวเมา ทำให้เจ้าชะตาหลงผิดได้ง่าย ชอบมัวเมา สุรายาเสพติด อบายมุข กระทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย ชอบท่องเที่ยวเดินทางอยู่ไม่ติดที่และ ชอบค้าขาย เปิดร้านเหล้า เมื่อราหู เป็นราชาโชค ก็ยิ่งทำให้ อยากจะทำอะไรที่ได้ผลตอบแทนมากๆ และมักมีผู้ใหญ่ให้ความช่วยเหลืออุปถัมภ์
ลัคนา ร่วมเรือน ดาว ๐  -  ชีวิตมักเจอปัญหาอุปสรรค วิกฤต ฉับพลัน รุนแรงบ่อย ๆ เจ้าชะตาประสบอุบัติเหตุหลายครั้ง 

       ต่อไปก็พิจารณาดาวที่กุมลัคนา คือ ดาว ๑ ธาตุไฟ เจ้าเรือนพันธุ ได้ตำแหน่งอุจจาภิมุข
ดาว ๑ กุมกับดาว ๔ ธาตุน้ำ เจ้าเรือนกดุมพะ-ปุตตะ ซึ่งมีอิทธิพลสำคัญกับเจ้าชะตาเพราะกุมลัคนา  ดาวคู่นี้ถ้าอ่านในมุมดาวคู่ ก็จะเป็นดาวคู่ประชาสัมพันธ์ คู่วิชาการ ซึ่งก็อาจจะเป็นเช่นนั้น ถ้าไม่มี ๘ ๐ ร่วมเรือน แต่ในการพิจารณาดาวนั้น จำเป็นต้องพิจารณากันเป็นดวงๆ ไป อย่างกรณีนี้เราก็พิจารณา ดาว ๑ ก่อน ดังนี้
ดาว ๑ ธาตุไฟ เจ้าเรือนพันธุ ได้ตำแหน่งอุจจาภิมุข  -  ทำให้เจ้าชะตามักจะมีเรื่องเดือดร้อน ร้อนใจ เกี่ยวกับถิ่นที่อยู่ ที่พักอาศัย หลักฐานความมั่นคงในชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่เจ้าชะตาให้ความสำคัญ
ดาว ๑ อยู่ในเรือน ๖  –  เป็นคู่สมพล ทำให้เจ้าชะตามีความชำนาญงานด้านใดด้านหนึ่ง และเป็นผู้ทีมีอิทธิพล กับเพื่อนฝูงคนรอบข้าง
ดาว ๑ กุมดาว ๔  –  ทำให้ความใจร้อนวู่วาม ความหยิ่งทะนงตน ของเจ้าชะตา ลดลง ปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ดี
ดาว ๑ ร่วมเรือน ๘ ธาตุลม เจ้าเรือนกัมมะ ในเรือนอริ  -   ต้องโยกย้ายเปลี่ยนแปลงถิ่นที่อยู่ ที่พักบ่อยๆ ชีวิตไม่มีหลักฐานความมั่นคง มีอุปสรรคปัญหา (๘ ธาตุลมในเรือนอริ) ทั้งนี้ก็เกิดจากการกระทำของตัวเอง (๘ เจ้าเรือนกัมมะ)
ดาว ๑ ร่วมเรือนกับ ดาว ๐  –  มีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง มักโยกย้ายเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ  ไม่มีหลักฐาน มีความเครียดกังวลใจกับเรื่องที่อยู่ และหลักฐานความมั่นคงของตัวเอง ซึ่งก็มักจะมีเรื่อง วิกฤต วิบัติอย่างไม่ทันตั้งตัวอยู่บ่อยๆ

     เอาแค่นี้ก่อนนะครับ สำหรับดาว ๑ ในการพยากรณ์จริง เรายังต้องอ่านดาวที่สัมพันธ์ถึงในมุมต่างๆ อีก เช่น โยคหน้า ซึ่งมีดาว ๓ (คู่ศัตรูใหญ่ มาจาก ปัตนิ-วินาศ หมายถึง การร่วมกันทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย จึงทำให้พันธุมีปัญหา) และดาว ๗ เจ้าเรือนศุภะ ที่เป็นประ  รวมถึงต้องพิจารณาความสัมพันธ์แบบแฝงดาวเกษตร ๖ ไปเป็นประ ในเรือนวินาศด้วย เป็นการพิจารณาในด้านภพผสมภพ ซึ่งสามารถวางโครงสร้างได้ว่า  พันธุ-ตนุ-วินาศ  ซึ่งตามพื้นดวงของเจ้าชะตานั้น ไม่ว่าจะเป็น ตนุลัคน์ กดุมพะ พันธุ ก็จะสัมพันธ์ถึง ภพวินาศ (ความวิบัติ สิ่งที่ไม่เปิดเผย เรื่องลับๆ ถูกจำคุก)ทั้งหมด จึงเป็นเหตุให้เจ้าชะตา ต้องติดคุก เพราะกระทำความผิด ขอเกริ่นไว้แค่นี้ก่อนครับ

     พิจารณาดาว ๔ ธาตุน้ำ เจ้าเรือนกดุมพะ-ปุตตะ ดาว ๔ หมายถึง การเจรจา การติดต่อสื่อสาร
ดาว ๔ อยู่เรือนดาว ๖  -  จึงทำให้เป็นคนพูดจามีเสน่ห์ พูดจาสนุกสนาน เฮฮา
ดาว ๔ กุมกับดาว ๑  -   จึงทำให้พูดจาแบบยกตนข่มท่าน พูดแรง ชอบพูดเอาชนะ โอ้อวด
ดาว ๔ ร่วมเรือนกับ ๘  -  ก็ทำให้เป็นคนที่เจรจาเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ มักพูดเท็จ พูดจาเชิงนักเลง มักสร้างศัตรูก็เพราะปาก (๘ ในเรือนอริ)  
ดาว ๔ ร่วมเรือนดาว ๐  -  เจรจาพูดคุย มักจะเกิดความเสียหายตามมาเสมอ
ดาว ๔ ธาตุน้ำ ในราศีธาตุดิน  -  ทำให้คำพูดเขาหนักแน่น จริงจังมากขึ้น มีความน่าเชื่อถือ มากขึ้น
คำพูดของเจ้าชะตาก็มีลักษณะอย่างที่กล่าวมาข้างต้นทุกประการ

     สำหรับการพยากรณ์ ภพผสมภพ หรือ เรือนชะตา และ ภพผสมดาวนั้น ก็ให้พยากรณ์ทีละภพ เริ่มจากกดุมพะ การเงินของเจ้าชะตา วางโครงสร้างได้ว่า  กดุมพะ- ตนุ-วินาศ  ทำให้ถึงแม้จะหาเงินมาได้มากเท่าใดก็ตาม ก็ไม่สามารถเก็บไว้ได้ ต้องหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว ถ้ามองในมุมดาวที่สัมพันธ์ถึง ก็จะเห็นได้ว่า มีดาว ๘ ๐ ร่วมเรือน ในเรือนอริ เป็นดาวเบียน (๘ คู่ศัตรู)  คอยบั่นทอน ทำร้ายการเงินของเจ้าชะตา ซึ่งความเสียหายนั้นก็เกิดจากเจ้าชะตาเอง เป็นผู้กระทำ ส่วนภพปุตตะ ความคึกคะนอง บุตร บริวาร ก็ต้องได้รับความเสียหายไปด้วย หลักเกณฑ์การพยากรณ์ก็เป็นแบบเดียวกับ ที่พิจารณาภพกดุมพะ

     ผมก็ขอยุติการอ่านพื้นดวงชะตา ไว้ที่การพิจารณาลัคนา อย่างเดียวก่อน ก็หวังว่าท่านจะได้รับทราบถึงแนวทางในการพยากรณ์ พอสมควร จากบทความข้างต้น ก็หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้ประโยชน์ และมุมมองในการพยากรณ์พื้นดวงชะตาเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย ซึ่งเนื้อหาที่นำมาพิมพ์เป็นบทความนี้ ก็เป็นความรู้ที่ได้มาจาก อ.เชียร บางบอน และตำราของอาจารย์หลายๆ ท่านที่ผมเคยกล่าวถึงอยู่บ่อยๆ สำหรับบทความนี้จะเน้นตำราของท่าน อ.อรุณ ลำเพ็ญ เป็นหลัก คุณงามความดีใดๆ อันเกิดจากบทความนี้ ผมก็ขอมอบให้กับ ท่านอาจารย์ทั้งหลายที่แต่งตำราและสอนผมมา แต่หากจะมีข้อบกพร่องประการใด ผมก็ขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว ในฐานะที่ไม่สามารถ นำความรู้ คำสั่งสอนของอาจารย์ มาเรียบเรียงให้ดี ให้ชัดเจนได้

     ก่อนจะกล่าวลา ผมขอย้ำอีกครั้งครับว่า สิ่งที่ทำให้ชีวิตของคนเราเป็นอย่างนี้อย่างนั้น ก็เพราะผลกรรมที่ตัวเองเป็นผู้ก่อ ไม่ว่าจะเป็นกรรมเก่า หรือกรรมใหม่ อย่าไปกล่าวโทษดาว ดาวไม่ได้กำหนดชีวิตใคร ดาวบอกแค่ท่วงทำนองในการดำเนินชีวิต อย่างดวงชะตาของคนนี้ หากเขาหันหลังให้กับ อบายมุข สิ่งมัวเมา(ราหู)  บ่ายหน้าสู่ทางธรรม ละทิ้งกิเลส ออกบวช(ดาว ๖ ตนุลัคน์ไปวินาศ สันโดษสมถะ กุมกับดาว ๕ ดาวคุณธรรม เป็นราชาโชค ในภพวินาศก็จะทำให้ บรรลุธรรมได้) ชีวิตของเขาก็สามารถพบแสงสว่าง พบความสุขที่แท้จริงได้ ดวงดาวเปิดเผยให้เห็นทางเดิน แต่เราเป็นผู้เลือกทางเดินนั้นเอง ดั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ว่า  “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” 

แล้วพบกันในบทความต่อไปอีก ๒ สัปดาห์ ข้างหน้าครับ  สวัสดี.

                                                                                                 ปราณเวท    ๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๗