การแก้ดวงชะตา ตามหลักโหราศาสตร์ โดย ปราณเวท
การแก้ดวง คือ การปรับปรุง แก้ไขพฤติกรรมหรือการกระทำ หรือ การปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับ ดวงชะตา หรือ การกระทำให้ถูกโฉลกกับดวงชะตา ซึ่งก็แล้วแต่จะเรียกกัน แต่ในบทความนี้ผมขอเรียกว่าการแก้ดวง เพื่อความกระชับ
ก่อนที่จะทำการแก้ดวงนั้นเราต้องพิจารณาพื้นดวงชะตาก่อน เป็นอันดับแรก ต่อไปก็พิจารณาดาวจร ว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้นกับเจ้าชะตา เมื่อใด โดยมีเงื่อนไขใด เมื่อทราบข้อมูลทั้งหมดแล้ว ก็จะสามารถหาวิธีแก้ดวงได้
การแก้ดวงนั้น อันที่จริงแล้วผมได้เคยเขียน บทความเกี่ยวกับการแก้ดวงไปแล้วแต่ไม่ได้ใช้ชื่อบทความที่สื่อให้เห็นว่าเป็นการแก้ดวงมากนัก นั่นคือ โฉลกวิถีทั้ง ๕ (ซึ่งได้รวบรวมหัวข้อที่ใช้ในการแก้ดวงไว้ครบถ้วนแล้ว คือ พื้นดวง, ดวงจร(ดาวจร) ,บุคลิกภาพ(การเสริมดวง) ,ชัยภูมิศาสตร์ , เจ้าที่เจ้าทาง วิญญาณ(ไสยศาสตร์) กล่าวคือ เป็นการใช้หลักโหราศาสตร์ ผสมกับ ไสยศาสตร์ แต่ไม่ได้อธิบายในแต่ละหัวข้ออย่างละเอียดนัก)
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเพื่อแก้ดวงนั้น มีดังนี้ครับ
๑. พิจารณาจุดเสียในดวงชะตา โดยพิจารณาจาก เรือน อริ มรณะ วินาศ ในพื้นดวงชะตาว่ามีเงื่อนไขอย่างไร มีจุดเสียอย่างไร
๒. พิจารณาดาวจร ว่าในขณะนั้น กำลังมีเรื่องอะไร และในอนาคตจะเป็นอย่างไร
๓. พิจารณาจากข้อเท็จจริง ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ที่เป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกภาพ นิสัยใจคอ ความรู้ ความสามารถ ฐานะการเงิน ฐานะทางสังคม สถานที่ แล้วนำมาปรับใช้ ยกตัวอย่างเช่น คนที่เกิดในปีที่ดาว
พฤหัสบดีเป็นอุจ ในราศีกรกฏ (ซึ่งเป็นอุจอยู่ 1 ปีถึงแม้จะมีบางช่วง พักร มนท์ เสริด บ้างก็ตาม) ก็ใช่ว่าจะเป็นคนที่มีความรู้ดีเท่ากันทุกคนไป บางคนอาจไม่ได้รับการศึกษา มีความรู้น้อย ด้วยเหตุฐานะทาง
บ้านไม่ดี จึงทำให้มีความรู้ สู้คนที่ดาวพฤหัสบดีเป็นประ เป็นนิจ แต่มีความพร้อมมากกว่า อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะดีกว่า ไม่ได้ ในบางคนก็อาจจะเรียนสูงถึงปริญญาเอก ทั้งนี้ก็เพราะฐานะ ปัจจัยแวดล้อม มีผลต่อเจ้าชะตา เป็นต้น
เมื่อเราพิจารณาดวง อย่างละเอียดถี่ถ้วนดีแล้ว ก็มาเลือกวิธีแก้ดวง ให้เหมาะสมกับเจ้าชะตา โดยวิธีในการแก้ดวง มีอยู่หลายวิธีดังนี้ครับ (ขอทำความเข้าใจกันก่อนครับว่า วิธีที่นำเสนอนี้ เป็นวิธีที่ อยู่ในมุมมอง
ของการแก้ดวง ซึ่งถ้านำวิธีทางพุทธศาสนามาใช้ ถือว่าการแก้ดวงเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น อย่างเช่น การถือศีล นั้นเป็นสิ่งที่พวกเราชาวพุทธ ควรยึดถือปฏิบัติเป็นอาจิณ อานิสงส์ของการถือศีล ก็มีมากมาย
เกินกว่า จะนำมาเพียงเพื่อการแก้ดวง อย่างเดียวครับ พูดง่ายๆคือ หลักธรรมทางพุทธศาสนา อยู่สูงกว่าหลักโหราศาสตร์ มากนัก อย่าสับสนในการถือปฏิบัติ นะครับ เพราะตอนนี้มีหลายคนใช้หลักธรรมะ ศาสนาอย่างผิดๆ คือ ยอมไปบวชชีพราหมณ์ ถือศีล ตามคำแนะนำของหมอดู เพื่อต้องการให้ตัวเองมีคู่ครอง เป็นต้น)
๑. การทำความดี ละเว้นความชั่ว, การปล่อยวาง , การถือศีล ,เจริญภาวนา กรรมฐาน
เป็นการแก้ดวง ที่ได้ผลดีที่สุด ครอบคลุมหลายเรื่อง ยกตัวอย่าง เช่น เกิดมาจน เกิดมาพิการ เกิดมาขี้เหร่ อกหัก ไร้คู่ จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สามารถพ้นจากสภาพนั้นได้ แล้วเป็นทุกข์อยู่กับสภาวะเช่นนั้น การรู้
จักปล่อยวาง การเจริญภาวนา กรรมฐาน ก็จะช่วยได้มาก ทำให้มีสติ มีปัญญา เข้าใจในเหตุและผล ที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับ พระสงฆ์ ที่เคร่งครัด ย่อมไม่รู้สึก ยินดียินร้ายกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ ความรัก ความชัง
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าดวงชะตาจะตก ดาวจะเสียแค่ไหน ย่อมไม่มีผลอะไรต่อท่าน
๒. การบวช
เป็นการตัดขาดทางโลก ปล่อยวาง ทุกเรื่องไว้ เป็นการแก้ดวง เมื่อเรือนมรณะ เสีย คือมีเกณฑ์ต้องพลัดพราก จากเป็นจากตาย
๓. การทำบุญ บริจาคทาน
เป็นการแก้ดวง เรือนกดุมภะ เรือนลาภะ การเงิน รายได้ เสีย
๔. สวดมนต์ สวดพระปริต บริกรรมคาถา บูชาพระ
เพื่ออาราธนา คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย มาปกป้องคุ้มครอง ให้พ้นโพยภัยต่างๆ
๕. ปล่อยนก ปล่อยปลา ไถ่ชีวิตสัตว์
เพื่อเป็นการทำบุญ ต่อชะตาชีวิตของเจ้าชะตา ทำให้หายจากเจ็บป่วย หรือ ทุกข์ทรมานจากการเจ็บป่วยน้อยลง แก้ดวงเรือน อริ มรณะเสีย เมื่อพิจารณา ตรวจดวงชะตาแล้ว พบว่าช่วงใดมีเคราะห์ ดวงตก การบริจาคเลือด เป็นการปรับดวง แก้ดวงที่ดีที่สุด
๖. ปรับปรุง บุคลิกภาพ การกระทำ หลีกเลี่ยงการกระทำอันอาจก่อให้เกิดความเสียหาย
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา อุปสรรคที่ เกิดจากการกระทำ พฤติกรรมของตนเอง เช่น เมื่อดาวพุธเสีย ดาวพุธจร เข้าเรือนอริ มรณะ วินาศ จะทำให้การติดต่อสื่อสารมีปัญหา การเจรจาตกลงต่างๆ ติดขัด อาจมีเรื่อง
ทะเลาะวิวาทถกเถียงกับคนรอบข้าง เพราะฉะนั้น ในช่วงที่ดาวพุธจร เสียจึงต้องสงบปากสงบคำ หลีกเลี่ยงการปะทะคารม หรือแสดงความคิดเห็นที่ขัดแย้งกับคู่สนทนา
๗. ปรับปรุงสถานที่ บ้านพัก ที่อยู่อาศัย
เพื่อให้สอดคล้องกับดวงชะตา ปรับให้ถูกโฉลก ลดปัญหา เช่น ในดวงชะตา ดาวราหูให้โทษ ที่ทิศใต้ ก็ต้องห้ามทำบาร์เหล้า หรือตั้งตู้เก็บเหล้า ไว้ที่ทิศใต้ของบ้าน ซึ่งจะทำห้ชีวิตประสบปัญหาอุปสรรค เป็นต้น
๘. การให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่า
เพื่อเป็นการสร้างบารมี ทำให้มีผู้ให้ความสนับสนุนช่วยเหลือ ผู้ใหญ่ให้การอุปถัมภ์ค้ำจุน แก้ดวง เรือนศุภะเสีย
๙. บริจาคที่ดิน หรือ ทำบุญซื้อที่ดิน สร้างศาลา โบสถ์ถวายวัด หรือบริจาคเงินสร้าง สิ่งปลูกสร้าง อสังหาริมทรัพย์ ให้หน่วยงานใดๆ เพื่อใช้เป็นสาธารณะประโยชน์เพื่อเสริมบารมี ให้ชีวิตมีความมั่นคง เป็นปึกแผ่น มีที่อยู่อาศัย เป็นหลักฐานมั่นคง แก้ดวง เรือนพันธุเสีย
๑๐. ทำบุญบริจาคหนังสือ หนังสือธรรมะ เป็นธรรมทาน
เพื่อเสริมบารมี ให้เป็นผู้มีความรู้แตกฉาน มีสติปัญญาดี พิจารณาไตร่ตรองสิ่งใด ได้ถูกต้องแม่นยำ การเรียนการศึกษาประสบผลสำเร็จดี แก้ดวง เรือนปุตตะ หรือ ศุภะเสีย
๑๑. อัญมณี เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย
เพื่อเป็นการเสริมดวง สร้างบารมี ให้มีโชคลาภ ความสำเร็จ โดยดึงพลังอำนาจ ของดาว ผ่านอัญมณีตัวแทนแห่งดาว มาสู่เจ้าชะตา แต่ก็ต้องหมั่นทำบุญ ทำความดี ไว้เป็นพลังบุญหนุนดวงชะตา ด้วย
๑๒. ทำบุญบริจาคทรัพย์ เพื่อการศึกษา เพื่อช่วยเหลือ เด็กยากจน ด้อยโอกาส
เพื่อให้ลูกหลาน บริวาร เป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย แก้ดวง เรือนปุตตะ เสีย
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ผมหยิบยกมาเพื่อเป็นแนวทางอย่างคร่าวๆ ยังไม่ครบทุกเรื่อง แต่ท่านผู้อ่านก็คงพอจะจับหลักในการ แก้ดวงชะตาได้แล้วนะครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะนำหลักธรรมะ มาใช้ในการแก้ดวง เสีย
เป็นส่วนใหญ่ และในการทำบุญนั้นก็ต้องยึด หลักสัมปทา ๔ เป็นสำคัญ
โดยอย่าลืมนะครับว่า การแก้ดวง ที่ถูกต้อง ย่อมมาจากการพิจารณาถึงเหตุ แห่งปัญหาที่แท้จริง นำข้อเท็จจริงมาพิจารณา และที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ว่าเราจะแก้ดวง ได้ดีเพียงใดก็ตาม ก็จะสามารถทำได้เท่าที่พื้นดวง วาสนากำหนดไว้ เป็นไปตามบุญกรรมที่เคยทำมาแต่ปางก่อน จะให้พลิกเปลี่ยนไปเลยนั้นคงไม่ได้ อย่างไรก็ต้องรับผลกรรมที่เคยทำมาก่อน ส่วนจะชีวิตจะดีขึ้นไหม? ก็ขึ้นอยู่กับว่า ในชาตินี้ ได้ทำกรรมดีอะไรไว้บ้าง ที่จะมาเจือจาง กรรมเก่า ...!!! ทั้งนี้ ทั้งนั้นก็เพราะ "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" ครับ