“ดวงฉีก” ดวงโลก - ดวงเมืองประเทศไทย 30 เม.ย. 67

“ดวงฉีก” คือ ตำแหน่งที่ พระราหู หรือ พระเกตุ โคจรอยู่ภพวินาศ และ มีดาวอื่น โคจรอยู่ภพกดุมพะ เป็นศูนยพาหะ นำหน้า ลัคนา (ถ้าเป็นพื้นดวงเดิม ให้พิจารณา ตนุลัคน์ , อาทิตย์ , จันทร์ หรือ ตนุเศษ โดยใช้เกณฑ์เช่นเดียวกับ ลัคนา) เป็นเกณฑ์ที่บ่งบอกถึง ผลร้ายรุนแรง เหมือน ลัคนาถูกฉีกออก แตกแยก

เมื่อพิจารณาจากลัคนาดวงโลก และ ดวงเมืองประเทศไทย ซึ่งสถิตอยู่ ราศีเมษ เมื่อดาวพฤหัสบดี ได้เดินพ้นราศีเมษไปแล้ว จึงทำให้ ลัคนาดวงโลกและดวงเมืองประเทศไทย ขาดศุภเคราะห์ ดาวดี ช่วยคุ้มครอง คุ้มโทษ แต่ก็ยังดีสำหรับดวงเมืองประเทศไทยที่ ตนุลัคน์ ดาวอังคาร ซึ่งเป็นดาวประจำดวงเมืองประเทศไทย สถิตอยู่ราศีพฤษภ ดาวพฤหัสบดีโคจรย้ายไปทับพอดี จึงพอช่วยคุ้มครอง คุ้มโทษได้

แต่สำหรับดวงโลกแล้ว ในช่วงเวลาดังกล่าว จึงถือว่าเป็นเกณฑ์ “ดวงฉีก” อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ก็เพราะว่า ดาวมฤตยู เป็นศูนยพาหะ , พระราหู จรอยู่ภพวินาศ, ดาวเสาร์ มีแรงเอื้อมถึง ลัคนา เรียกได้ว่า บาปเคราะห์ใหญ่ทั้งหมด กระทบถึง ลัคนาดวงโลก อย่างเต็มที่

ทำให้ สถานการณ์ของโลกในช่วง 30 เม.ย. 2567- 5 พ.ค. 2568 มีเกณฑ์เกิดความขัดแย้ง แตกแยก แตกหัก ภาวะสงคราม การใช้กำลัง ความรุนแรง การก่อวินาศกรรม การจลาจล รวมไปถึง ภัยพิบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดินไหว ภูเชาไฟระเบิด สึนามิ อัคคีภัย น้ำท่วม วาตภัย อุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมาก และ สภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ ความผันผวนของเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง การธนาคาร การโจรกรรมทางการเงิน-ธนาคาร

ด้วยตำแหน่งการโคจรของดาวลักษณะนี้ ถึงแม้จะเป็นภาพรวมใหญ่ของโลก หรือ ของประเทศ เราประชาชน พลเมืองโลก ก็คงต้องติดร่างแห เดือดร้อน วุ่นวาย ได้รับผลกระทบในเชิงลบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อย่างไรก็ตามดวงเมืองประเทศไทย ยังมีด้านดี มีตัวช่วยอยู่ คือ ดาวพฤหัสบดีที่โคจรทับดาวประจำเมือง จึงพอช่วยคุ้มครอง คุ้มโทษได้ ยังไม่ถึงขั้นเสียหายอะไรนัก ยังพอมีทางออก มีตัวช่วยอยู่ แต่ก็ต้องขอเตือนไว้หน่อยครับว่า ในช่วง 1 ปีนี้ (โดยประมาณ) ให้ระมัดระวัง ในการดำเนินชีวิต ต้องมีสติ รอบคอบ ไม่ประมาท วางแผนการเงิน การใช้ชีวิต-ธุรกิจให้ดี พิจารณาทุกอย่างด้วยเหตุผล ข้อเท็จจริง ประเมินความเสี่ยงต่างๆ ให้รอบด้าน เตรียมความพร้อมให้ดี ก็จะทำให้ปัญหาต่างๆ ลดน้อยลง หรือ อาจจะไม่เกิดอุปสรรค ปัญหา ผลกระทบเชิงลบอะไรขึ้นเลยก็ได้ครับ