การพยากรณ์จร เรียบเรียงโดย ปราณเวท
การพยากรณ์จร ก็คือ การพยากรณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หรือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต การพยากรณ์จร นั้นมีอยู่หลายระบบ ยกตัวอย่างเช่น มหาทักษา , จักรทีปนี , ตรีวัย ,กาลจักรลัคน์จร , อินทภาษบาทจันทร์ , โหราศาสตร์จันทรคติ ,ชันษาจร , ลัคนาวัย , อายุจร เป็นต้น ซึ่งในมุมมองของผม สามารถแยกออกเป็น 2 ระบบใหญ่ๆ ก็คือ
- ลัคนาคงที่ คือ การพยากรณ์ดวงชะตา โดยใช้ดาวจร กระทบกับ ดาวในพื้นดวงเดิม ลัคนาเดิมอยู่ราศีใด ก็อยู่ราศีนั้นไปตลอด คงที่ไม่เปลี่ยนแปลง
- ลัคนาจร คือ การพยากรณ์ดวงชะตา โดยใช้ดาวจร กระทบกับ ดาวในพื้นดวงเดิมเหมือนกับ ลัคนาคงที่ แต่จะต่างกันที่ระบบนี้ ลัคนาจะย้ายเคลื่อนไปอยู่ราศีอื่นด้วย ไม่คงที่ตายตัวราศีใดราศีหนึ่ง ซึ่งปกติก็จะใช้การนับตามอายุย่าง ของเจ้าชะตา โดยนับไปปีละ 1 ราศี เช่น พื้นดวงเดิม ลัคนาราศีเมษ พออายุย่างเข้า 2 ขวบปี ลัคนาก็จะย้ายไปอยู่ราศีพฤษภ พออายุย่างเข้า 3 ขวบปี ลัคนาก็จะอยู่ราศีมิถุน เป็นต้น (ระบบนี้เป็นเพียงหนึ่งในอีกหลายระบบ ของระบบ ลัคนาจร นะครับ)
ซึ่งใน 2 ระบบที่กล่าวมาก็มีแยกย่อย อีกว่า ใช้ทักษาจร หรือ ไม่ใช้ทักษาจร ในการพยากรณ์ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า เรียนมาจากสำนักไหน ตำรับใด ซึ่งแต่ละสำนัก ชมรม สมาคม ก็จะเน้นหลักแตกต่างกันออกไป เช่น ถ้าเรียน สาย อ.เอื้อน มนเทียรทอง ก็เป็น โหราศาสตร์จันทรคติ , อ.ธนกรสินเกษม จะเน้นใช้ ทักษาจร แบบลัคนาคงที่ , อ.อรุณ ลำเพ็ญ เป็นชันษาจร ,อ.เชียร บางบอน ใช้ลัคนาวัย ไม่ใช้ทักษาจร ,อ.พลูหลวง ใช้ลัคนาคงที่ ไม่เน้นทักษาจร , อ.จำรัส ศิริ ใช้ ตรีวัย ใช้ทักษาจร เป็นต้น
สำหรับผมเอง ใช้ระบบ ลัคนาวัย ของ อ.เชียร บางบอน (ซึ่งท่านเป็นอาจารย์ของผมเอง) แต่ในบทความนี้ ผมจะอธิบายถึง ระบบ ลัคนาคงที่ เท่านั้น ซึ่งผมจะใช้แนวทางการพยากรณ์จร ของ อ.เชียร บางบอน กับ อ. พลูหลวง เป็นหลัก (หาอ่านได้จากหนังสือ “การพยากรณ์จรโดยพิสดาร” ของ อ.พลูหลวง มีจำหน่ายที่ร้านเขษมบรรณกิจ/ เว็บโหราเวสม์) เพื่อให้เกิดความเข้าใจ พื้นฐานการพยากรณ์จรที่ใช้กันทั่วๆไป ซึ่งมีความแม่นยำในระดับที่น่าประทับใจ และสามารถหาข้อมูลตำราอ้างอิงประกอบได้มากมาย ถือได้ว่าเป็นการพยากรณ์จร แบบมาตรฐาน ครับ
หลักการพยากรณ์จร
- พิจารณาที่ภพ ที่ต้องการพยากรณ์ ว่ามีดาวจรใดทำมุมถึงบ้าง และมาจากภพใด ก็แสดงว่าภพนั้นนำเหตุมาให้ เช่น ดาวเจ้าเรือน ปุตตะจร เข้าภพมรณะ ก็แสดงว่า ลูก หลาน บริวาร จะเดือดร้อน หรือ นำเรื่องเดือดร้อนเสียหายมาให้
- พิจารณาดาวเจ้าเรือน ภพที่ต้องการพยากรณ์ว่า มีดาวจรใดสัมพันธ์ทำมุมถึงบ้าง
- พิจารณาดาวเจ้าเรือนจร ว่าจรไปอยู่ภพใด สัมพันธ์ทำมุมใดกับภพที่ ต้องการจะพยากรณ์นั่นก็หมายความว่า ไปแสดงผล มีสภาวะตามภพเรือนที่จรไปอยู่ ถ้าอยู่ในมุมดี ก็จะส่งผลดี ต่อภพนั้นๆ และต้องดูต่อว่า มีดาวจร ดวงใด สัมพันธ์ทำมุมถึงบ้าง
- บาปเคราะห์จร เข้าภพที่ต้องการพยากรณ์ ก็แสดงให้เห็นถึง โทษ ถ้าบาปเคราะห์จร มาจากทุสถานะภพ อริ มรณะ วินาศ ด้วยแล้วก็ยิ่งทำให้ร้ายแรง ยิ่งขึ้น
- ศุภเคราะห์จร เข้าภพที่ต้องการพยากรณ์ ก็แสดงให้เห็นถึง คุณ ถ้าศุภเคราะห์จร มาจากศุภสถานะภพ ก็จะให้คุณ มากยิ่งขึ้น
- บาปเคราะห์จร สัมพันธ์ถึง ศุภเคราะห์แสดงถึง ความขัดแย้ง
- ดาวจร สัมพันธ์ถึง ดาวคู่ศัตรู ในพื้นเดิม แสดงถึง ความขัดแย้ง แต่ถ้าเป็นคู่มิตร คู่สมพล คู่ธาตุ ก็จะให้ คุณมากกว่า โทษ
- ต้องพิจารณา ตนุลัคน์จร ประกอบด้วย ภพที่จรไปอยู่ มุมดาวที่สัมพันธ์ ถึงดาวต่างๆ
- ดาวจร จะทำหน้าที่ 2 อย่างคือ ภพที่ครอง กับ ดาว (รวมถึง มาตรฐานดาว องค์เกณฑ์ ปทุมเกณฑ์ เกณฑ์ต่างๆ ที่ดาวจร ทำหน้าที่อยู่ในตำแหน่งใด มุมดาว ในเวลานั้นด้วย)
- พิจารณาลักษณะการโคจร ของดาวจรที่ต้องการพยากรณ์ ว่า พักร มนท์ เสริด อย่างไร
- พิจารณาดาวใหญ่ 4 ดวง คือ ดาวเสาร์ ราหู มฤตยู (พิจารณาเรื่องร้ายๆ เสียหาย) และ ดาวพฤหัสบดี (พิจารณาเรื่องดีๆ โชคลาภ ความสำเร็จ) ที่ทำมุมสัมพันธ์ กระทบถึง จุดตั้งรับในดวงชะตา และภพที่ต้องการพยากรณ์ บวกกับ ดาวเล็กจร ที่จะเข้ามาสนับสนุน ส่งเสริม ให้เกิดเรื่องคือ ดาว อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ ศุกร์ และ เกตุ
ความหมาย ดาวจร
ดาว ๑ ยศศักดิ์ ชื่อเสียง ตำแหน่งหน้าที่ ความก้าวหน้า เจ้านาย หัวหน้า ผู้ใหญ่ สุขภาพของเจ้าชาตา ความกระวนกระวาย วู่วาม อารมณ์ร้อน ถ้าทับลัคนาจะร้อนที่อยู่ มีเหตุต้องเดินทาง อยู่ไม่ติดที่ ระวังของร้อน ฟืนไฟ ใช้พิจาณาจร รายเดือน เป็นดาวให้แสงกระตุ้นให้ดาวอื่นทำงาน
ดาว ๒ ครอบครัว มารดา ภรรยา สตรี ความสัมพันธ์ในครอบครัว จิตใจ ลาภ จุดเจ้าชาตา เป็นดาวจุดชนวน ในวันที่เกิดเหตุ ถ้าจรทับลัคนา ก็จะมีลาภปาก มีคนมาหาสู่
ดาว ๓ การงาน การกระทำ การต่อสู้ ความขัดแย้ง ความรุนแรง อุบัติเหตุ สามี มีเหตุยุ่งยากต่างๆ เช่น ของหาย เจ็บป่วย อุบัติเหตุ ถ้ามีบาปเคราะห์ดวงอื่นเข้าเสริม ก็จะรุนแรงมากขึ้น
ดาว ๔ การเจรจา ติดต่อ การเดินทางใกล้ๆ ข่าวสาร ข้อมูล ความคิด การวางแผนงาน ความสัมพันธ์ในสังคม
ดาว ๕ โชคลาภความสำเร็จ โชคลาภเงินทอง ผู้อุปถัมภ์ ผู้ใหญ่ พระ ครู จรอยู่ภพไหนก็จะให้ผลดี ในภพนั้น ถ้าทับลัคนา หรือ ตนุลัคน์ก็จะเป็นช่วงดวงรุ่ง
ดาว ๖ ความรัก ความใคร่ ความสุข สมหวัง กิเลส ความอยาก เงินทอง การบันเทิง ภรรยา สตรี
ดาว ๗ ความเสียหาย ทุกข์โทษ พลัดพราก เจ็บป่วย โรคเรื้อรัง คดีความ จะขาดทุนรอน ถ้าทับลัคนา หรือ ตนุลัคน์ จะเป็นช่วงดวงตก (โทษทุกข์ จน เจ็บ จาก)
ดาว ๘ การเปลี่ยนแปลง ผันผวน การเดินทาง หนี้สิน อุบัติเหตุ เจ็บป่วย ทุจริต ผี ถ้าจรทับลัคนา หรือตนุลัคน์โบราณถือว่า เป็นเคราะห์หนัก
ดาว ๙ ความวุ่นวาย ผันผวน ปั่นป่วน ไม่แน่นอน การเดินทาง ลางสังหรณ์ วิตกกังวล ความเสียหาย
ดาว ๐ การเปลี่ยนแปลงในชีวิต ความเครียด กังวล วิกฤต ฉับพลัน การเดินทาง การสูญเสีย ตาย สิ่งที่ลึกลับ เรื่องที่ไม่เปิดเผย เดินทางไกล
จุดตั้งรับในดวงชะตา
- ลัคนา
- ตนุลัคน์
- ดาว ๑
- ดาว ๒
ถ้ามีบาปเคราะห์สัมพันธ์ถึง หรือบาปเคราะห์จรถึง ก็จะพบกับความเดือดร้อนเสียหาย เจ็บป่วย มีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นกับเจ้าชาตา ในทางกลับกันถ้าเป็น ศุภเคราะห์ ก็จะกลายเป็นเรื่องที่ดี ประสบความสำเร็จ มีโชคลาภ แทน
การพยากรณ์จรเฉพาะเรื่อง
เราต้องพิจารณาในพื้นดวงเดิม เสียก่อน ถ้าในดวงเดิมบอกเรื่องราวไว้อย่างไร เมื่อถึงเวลาดาวจรกระทบถึง ก็จะแสดงผลออกมา ภพบอกเรื่องราว ดาวบอกเหตุการณ์
การพยากรณ์จร ยังคงใช้หลักเกณฑ์ วิธีในการพยากรณ์ เหมือนกับการพยากรณ์พื้นดวงทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานดาว ตำแหน่งดาว เช่น องค์เกณฑ์ ปทุมเกณฑ์ เกณฑ์ต่างๆ รวมถึงความเป็นคู่มิตร คู่ศัตรู คู่สมพล คู่ธาตุ ด้วย
การโยกย้ายที่อยู่
- ตนุลัคน์จร เข้าภพ มรณะ ,ศุภะ ,วินาศ
- ดาวเจ้าเรือนพันธุ หรือ ดาวลอยในภพพันธุเดิม จร เข้าภพ มรณะ,ศุภะ, วินาศ
- ดาวเจ้าเรือนพันธุจร ถูกบาปเคราะห์สัมพันธ์ถึง ในมุมร้าย (อริ,มรณะ, วินาศ)
- ดาวบาปเคราะห์ ที่มีความหมาย เกี่ยวกับการเดินทาง โยกย้าย คือ ๗ ๘ ๙ ๐ จร เข้าภพพันธุ หรือ ดาวเจ้าเรือน อริ มรณะ วินาศ จรเข้าภพพันธุ
- เดินทางใกล้ ให้พิจารณาภพสหัชชะ เดินทางไกลให้ดู ภพมรณะ, ศุภะ, วินาศ
- ภพพันธุ นี้ยังสามารถพิจารณาถึง เรืองการได้บ้าน ได้รถ เสียบ้าน เสียรถ รวมถึงการเกิดอุบัติเหตุ ทางรถได้ด้วย
การงาน การได้งาน
- ดาวตนุลัคน์จร และดาวเจ้าเรือนกัมมะ หรือดาวลอยในภพกัมมะเดิมจร เข้าภพปุตตะ, ศุภะ หรือ ลาภะ
- ดาวเจ้าเรือนกัมมะ หรือดาวลอยในภพกัมมะ จรมาทับลัคนา หรือสัมพันธ์ถึงในมุมดี และมีดาวศุภเคราะห์ จรส่งกระแสสัมพันธ์ถึงในมุมดี
- ดาวเจ้าเรือนกัมมะจร ร่วมกับดาวตนุลัคน์จร มีดาวศุภเคราะห์จร โดยเฉพาะดาว ๕ จร สัมพันธ์ถึงในมุมดี
- ดาว ๕ จรเข้าภพกัมมะ หรือ สัมพันธ์ถึงในมุมดีกับ ดาวเจ้าเรือนกัมมะในพื้นดวงเดิม และ ดาวเจ้าเรือนกัมมะจร
- ให้สร้างภพจาก ตนุลัคน์ แล้วพิจารณา การโคจรของดาวเจ้าเรือนกัมมะ(ของตนุลัคน์) นั้น มาร่วมประกอบด้วย
- ดาวเจ้าเรือนลาภะ, ดาวศรีกำเนิด จรมาสัมพันธ์ในมุมดีกับ ดาวเจ้าเรือนกัมมะเดิม และ ดาวเจ้าเรือนกัมมะจร
- ดาวตนุลัคน์จร จรเข้าภพกัมมะ และดาวเจ้าเรือนกัมมะ จรมาทับลัคนา
- ถ้าดาว ๒ เป็นเจ้าเรือนกัมมะ ให้พิจารณาดาว ๕ จร เป็นเจ้าเรือนกัมมะ แทน
ผมขอยกตัวอย่าง ให้เห็นเป็นแนวทางเพียงเท่านี้ก่อน ในการพยากรณ์เรื่องอื่นๆ ก็จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันนี้ ในการพยากรณ์เช่นกัน ถ้าฝึกฝนการพยากรณ์จร โดยใช้หลักเกณฑ์เหล่านี้ จนเกิดความชำนาญ ก็จะสามารถเป็นโหรอาชีพ ที่เก่งกาจได้ไม่ยากเย็นนัก ที่เหลือก็คงเป็น ทักษะ ศิลปะในการพยากรณ์ ซึ่งจะได้จากการฝึกฝนออกคำพยากรณ์ดวงชะตา ยิ่งพยากรณ์มากเท่าไร ทักษะ ศิลปะในการพยากรณ์ก็จะมากขึ้นไปด้วยเป็นเงาตามตัว ครับ
ป.ล. สำหรับท่านใดที่สงสัยว่า "จะรู้ได้อย่างไร ว่าดาวจร จรอย่างไร ย้ายเข้าราศีนั้นราศีนี้ เมื่อไร? " คำตอบก็คือ เราดูได้จากปฏิทินโหราศาสตร์/ดาราศาสตร์ แสดงการโคจร ของดวงดาวไว้ ซึ่งผมขอแนะนำให้ซื้อปฏิทินโหราศาสตร์ ทั้งแบบ สุริยยาตร์ กับ นิรายะนะ มาไว้จะดีกว่าครับ แต่ถ้าไม่อยากยุ่งยากอะไรมาก ก็ใช้โปรแกรมผูกดวงสำเร็จรูป เช่น โปรแกรมโฮ๋ราสาด, มหาหมอดู ,พลโชติ ก็ได้ครับ
ปราณเวท 28 ก.พ. 59