การแก้และป้องกันคุณไสย โดย ปราณเวท
ข้าพเจ้า ขอประณตน้อมนมัสการ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดามารดา คุณครูอาจารย์ผู้ฝึกสอน สรรพครูทั้งหลายทั้งปวง ผู้สร้างสรรพคัมภีร์ สรรพเวททั้งหลาย
ความรู้ เกี่ยวกับวิชาไสยศาสตร์ ของผมนั้น ส่วนใหญ่ได้มาจากหนังสือ ของ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร เป็นหลักครับและสิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ ส่วนใหญ่ก็ได้ข้อมูล จากหนังสือ อาถรรพ์เวท ภาค 1-2 คุณไสย มีอยู่หลายอย่างครับ เช่น คุณผี (ใช้ผีมาเข้าสิง หรือทำร้าย) , คุณคน (การกระทำ โดยใช้สิ่งของ หรืออาคมต่างๆ) , เสน่ห์ยาแฝด , ยาสั่ง , ฝังรูปฝังรอย, ลมเพลมพัด เป็นต้น
วิธีการกระทำยำยี คุณไสย แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ
1. กระทำโดยตรงถึงตัว
2. กระทำโดยมโนคติ
การกระทำยำยี โดยใช้วิชาไสยศาสตร์ นั้นถ้าจะให้สัมฤทธิ์ผล ต้องอาศัยเหตุ 3 ประการ
1. ผู้กระทำ ต้องกระทำด้วยความสุจริตใจ
2. ผู้ที่กระทำเป็นฝ่ายถูก แต่ได้รับความอยุติธรรม
3. ผู้ที่ถูกกระทำ ต้องไม่มีการป้องกันตัว
ถ้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไข 3 ประการนี้แล้ว ก็ยากนักที่การกระทำยำยี นั้นจะเป็นผล เมื่อเราทราบถึง วิธีการและเงื่อนไขแล้ว ก็จะทำให้เราสามารถป้องกันตัวเอง จากคุณไสย ต่างๆ ได้
การป้องกันไม่ให้ถูกคุณไสย
1. ต้องเป็นผู้มีศีล มีธรรม น้อมนำพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่ง หมั่นสวดมนต์ภาวนา บูชาพระรัตนตรัยอย่างสม่ำเสมอ กล่าวกันว่า ใครก็ตามที่สามารถ ไหว้พระได้ สวดมนต์ บูชาคุณ พระ พุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้ก็แสดงว่า ไม่ได้ถูกคุณไสยกระทำ
2. ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ กับใคร ไม่เบียดเบียนใคร ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นทางกาย วาจา ใจ ก็ตาม
3. หลีกเลี่ยงการเชื่อมโยง กับคุณไสยต่างๆ เช่น ถ้าในเวลากลางคืนได้ยินเสียงอะไรดังผิดปกติ ก็อย่าไปทักให้อยู่เฉยๆ ไว้(ใช้สติไตร่ตรอง) ,อย่าเข้าไปในสถานที่ ที่หวงห้าม หรือกระทำในสิ่งที่เป็นการลบหลู่ ,อย่าหยิบจับ วัตถุอาถรรพ์ใดๆ โดยเด็ดขาด
4. ทำอาถรรพ์ กฤตยาคม ป้องกันตนเอง เช่น การสวดมนต์คาถา , อาราธนาพระคล้องคอ, การทำดวงพิชัยสงคราม, ผูกดวงไว้บูชาดวง, แขวนยันต์ท้าวเวสสุวรรณ, การฝังอาถรรพ์บริเวณบ้าน หรือการปลูกต้นไม้ เพื่อป้องกัน คุณไสยต่างๆ
5. ทำบุญทำทาน สร้างกุศล แล้วแผ่เมตตา และอุทิศส่วนบุญ ให้แก่ เจ้ากรรมนายเวร ,เทวดาประจำตัวที่คอยปกปักรักษาตัวเรา
หัวใจของการป้องกันคุณไสยก็คือ การเป็นผู้มีศีลธรรม คุณธรรม ไม่วุ่นวายหาเรื่องใส่ตัว แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องรู้จักหาทางป้องกัน ตามข้อ 4 ไว้บ้างก็ดีครับ
การแก้คุณไสยต่างๆ
1. ก่อนอื่นต้องแยกแยะให้ออกก่อนว่า สิ่งที่เป็นนั้น มีสาเหตุจากอะไร และควรยึดหลักวิทยาศาสตร์ก่อน ถ้าไม่ค่อยสบาย เจ็บไข้ได้ป่วย ก็ต้องไปหาหมอ แต่ถ้าพยายามรักษาจนถึงที่สุดแล้ว หมอหมดทางรักษา แล้ว ก็ค่อยหันมาใช้วิธีทางไสยศาสตร์ การพิสูจน์ก็มีหลายวิธี แต่วิธีที่ดีที่สุด คือ ลองให้ผู้ป่วยสวดมนต์ไหว้พระ สวดคาถาชินบัญชร ถ้าสวดได้จนจบ ก็พอสรุปได้ว่า คงไม่ได้โดนคุณไสย หรอกครับ แต่อาจจะเป็นโรคเวรโรคกรรม เป็นบุพกรรม ที่ผู้ป่วยได้เคยกระทำมาในอดีต ถ้าเป็นเช่นนั้น วิธีการรักษาก็ต้องควบคู่ไปกับ การสร้างบุญสร้างกุศล ชดใช้หนี้กรรม
2. ปรึกษาพระ หรือ ผู้ที่มีความรู้ในการแก้อาถรรพ์ต่างๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่คาถาที่ใช้ในการแก้คุณไสย ก็จะเป็น คาถาธรณีสาร ถอนโบสถ์ถอนเสมา ข่ายเพชรพระพุทธเจ้า ชินบัญชร เป็นต้น แต่ถ้าสามารถรอได้ ต้องการให้สัมฤทธิ์ผลอย่างแน่นอน ก็ต้องหาฤกษ์ กำหนดวันและเวลา ในการล้างอาถรรพ์ให้ดีด้วยครับ
3. นำน้ำมนต์ที่วัด มาอาบหรือ ให้ผู้ถูกคุณไสย ดื่ม (ต้มเสียก่อนก็ดีนะครับ) ยังมีอีกหลายวิธีที่จะแก้คุณไสยได้ ซึ่งถ้าพิสูจน์จนมั่นใจแล้วว่า โดนคุณไสยแน่นอน ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ พระ หรือ หมอผี ดีกว่าครับ
ถึงตรงนี้ผม อยากจะเตือนทุกท่านว่า เรื่องไสยศาสตร์เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ยาก สำหรับคนทั่วไป จึงทำให้ถูกพวกมิจฉาชีพ ,พวก 18 มงกุฏ หลอกลวงได้ง่าย เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา และโอกาสในการรักษาเยียวยา อีกอย่าง การทำคุณไสย ใส่ใครในสมัยนี้ผมว่า มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะสภาพแวดล้อม สังคมที่เปลี่ยนไป สิ่งที่จะนำมาใช้ก็หายากขึ้น และต้องเป็นผู้ที่มีตบะ อาคมแก่กล้า ซึ่งหาได้ยากเต็มทน (คนที่มีความละโมบในอามิสสินจ้าง จนทำร้ายคนอื่นได้ ก็ยากที่จะเป็นผู้คงแก่เวท ตบะเดชะ) แถมถ้าเป้าหมายที่จะทำคุณไสยใส่ รู้ตัว หาทางป้องกัน คนที่จะเดือดร้อนก็คือผู้ปล่อยของนั้นเอง
สำหรับคนที่ปล่อยของ ถ้าไม่อยู่ในศีล หรือกระทำผิด คิดร้าย ไม่เป็นไปตามเหตุ 3 ประการข้างต้น ก็ย่อมนำผลร้ายมาสู่ตัวเอง หรือโดนของกลับเข้าตัวเอง กล่าวกันว่า ผู้ที่ใช้มนต์ดำ ไสยดำ ทำร้ายคนอื่น ตายไปก็จะกลายไปเป็น ปอบ หรือกระสือ ที่หิวโหย ทุกข์ทรมาน ร่อนเร่ไปเรื่อยๆ อยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไม่กล้าสู้หน้าใคร หรือถ้าไปเกิดในชาติหน้า ก็จะกลายเป็นคนปัญญาอ่อน สติไม่สมประกอบ
สำหรับผมที่ผ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นคนที่ถูกคุณไสยกับตาตัวเองเลย เคยเห็นแต่ผีเข้า ซึ่งก็มักจะแก้ไม่ยาก ส่วนใหญ่พอเหนื่อยแล้ว หรือ เจรจาต่อรองได้สมใจแล้วก็ออกเอง ไม่ต้องถึงกับออกแรงไล่กัน ส่วนคนที่มาบอกว่า โดนของ ผมพิจารณาแล้ว ก็มักเกิดจากการเข้าใจผิด ทึกทักอุปทานไปเอง เสียมากกว่า คนที่จะโดนของ ถูกคุณไสยได้นั้น ส่วนหนึ่งก็คงมาจาก บุพกรรม ของแต่ละคน นั่นแหละครับ "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"