โหราศาสตร์ไทย ระบบอัฏฐพิเคราะห์ เรียบเรียงโดย ปราณเวท
ระบบอัฏฐพิเคราะห์ ..คือ..!!! ???
คืออย่างนี้ครับ.. เป็นธรรมดาของนักโหราศาสตร์ทุกๆ ท่าน ที่จะพยายาม หากลเม็ดเคล็ดลับ รูปแบบในการพยากรณ์ดวงชะตา ที่เป็นรูปแบบที่ตนเองมีความเข้าใจ และสะดวกในการนำมาพิจารณาใช้พยากรณ์ ซึ่งบางท่าน ก็ใช้รูปแบบเดิมที่เคยมีมา ใช้ตามหลักเดิมที่ครูอาจารย์ท่านวางไว้เป็นแนวทาง แต่ก็มีหลายท่านที่ คิดค้นหารูปแบบใหม่ๆ หรือ มุ่งเน้นวิธีการ หลักการ ปกรณ์วิชา บางอย่างเพื่อใช้เป็นหลักสำคัญ ในการพยากรณ์ ซึ่งก็รวมถึงตัวผมด้วยเช่นกัน
จากที่ได้รับการสั่งสอนจากท่าน อ.ธนกร สินเกษม ที่สมาคมโหรฯ กับ อ.เชียร บางบอน พร้อมกับศึกษาตำราของครูบาอาจารย์ โหราจารย์หลายๆ ท่าน ไม่ว่า จะเป็น อ.เทพย์ สาริกบุตร, อ.เชย บัวก้านทอง, อ.พลูหลวง, อ.จำรัส ศิริ , อ.อรุณ ลำเพ็ญ, อ.ประทีป อัครา, อ.เปี่ยม บุญยโชติ, อ.ส.ไชยนันทน์ , อ.ดำริห์ ไตรรัตน์ , อ.บุญช่วย ชุ่มเชิงรักษ์ ,อ.เอื้อน มณเทียรทอง และอีกหลายๆ ท่าน บวกกับประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ผมพอจับหลักได้ว่า......
การเรียนวิชาโหราศาสตร์นั้น ไม่มีอะไรมากครับ แค่ต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจในเรื่องของ ดาว กับ ราศี เท่านั้นเอง แต่ที่ยุ่งยากก็เพราะ ต้องเรียนรู้ จดจำ และเข้าใจ ความหมายดาว, คุณภาพ มาตรฐานของดาว, ความหมายราศี, ภพ (เรือนชะตา), ธาตุของดาว และราศี, ประเภทราศี (คุณะราศี), มุมสัมพันธ์ของดาว, ทักษา, ความหมายของ คู่ดาว ดาวคู่ต่างๆ การผสมดาว, การผสมภพ ตลอดจน เกณฑ์ต่างๆ ให้แม่นยำ แค่นั้นเอง
จึงเป็นที่มา ของแนวความคิด “โหราศาสตร์ไทย ระบบอัฏฐพิเคราะห์” นั่นก็คือ บทสรุปที่กล่าวถึง หัวข้อ เรื่องราวที่จำเป็น ที่ต้องนำมาพิจารณาไตร่ตรอง เพื่อออกคำพยากรณ์ดวงชะตา ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 8 หัวข้อดังนี้
1. ภพ (เรือนชะตา) , ภพผสมภพ , ความหมายราศี
2. ดาว คุณภาพดาว มาตรฐานของดาว ความหมายดาว
3. คู่ดาว ดาวคู่ (ดาวผสมดาว)
4. ธาตุดาว ธาตุราศี
5. คุณะราศี (ประเภทราศี)
6. มุมสัมพันธ์ (กุม เล็ง โยค ตรีโกณ เกณฑ์ (จตุโกณ) ร่วมเรือน แฝงดาว เบียน ฯลฯ)
7. ทักษา
8. กรรม (การกระทำ, สถานภาพ, สภาพแวดล้อม, ข้อมูล-ข้อเท็จจริงต่างๆ)
จะเห็นได้ว่าหัวข้อทั้งหมดนั้น ไม่ได้เป็นสิ่งแปลกใหม่อะไรเลย เพียงแค่ผมนำมาเรียบเรียง จัดเรียงข้อมูลให้เหมาะสม รวมถึง ปรับมุมความคิด มุมมอง ให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ และช่วยให้การออกคำพยากรณ์ มีรูปแบบที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เท่านั้นเอง ระบบนี้ จึงทำให้ไม่จำเป็น ต้องท่องจำกฎเกณฑ์ต่างๆ มากเหมือนกับระบบทั่วไป สำหรับท่านใดที่พอมีความรู้โหราศาสตร์อยู่แล้ว คงเข้าใจหลักการที่ผมว่านี้ โดยไม่ยากเย็นนัก ครับ